บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 10,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% เปิดขายโดยให้ผู้ถือหุ้นกู้เดิม PTTGC144A จองซื้อได้ก่อนในช่วงวันที่ 28-29 ก.ค.นี้ และผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 4-7 ส.ค.นี้ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่าย 4 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (“PTTGC”) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ในครั้งนี้เป็นการรองรับความต้องการของผู้ถือหุ้นกู้รุ่นก่อน และผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนกับ PTTGC
หุ้นกู้ของ PTTGC เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นการลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตสูง มีผลตอบแทนคงที่ และ PTTGC เป็นบริษัทที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีคณะผู้บริหารและพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี นอกจากนั้นบริษัทยังมีความหลากหลายของเคมีภัณฑ์ทั้งผลิตภัณฑ์ต้นน้ำและปลายน้ำ และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ดังกล่าวที่ระดับ AA(tha) ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทอีกด้วย
บริษัทได้แต่งตั้งธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ครั้งนี้ ซึ่งมีอายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในปี พ.ศ. 2564 มูลค่า 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวเสนอขาย 2 ช่วง คือ ช่วงแรก ในวันที่ 28 - 29 กรกฎาคม 2557 สำหรับผู้ถือหุ้นกู้ PTTGC144A ที่ครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อเดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา และช่วงที่สองในวันที่ 4 - 7 สิงหาคม 2557 เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป
ผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่นี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นกู้ได้ที่สาขาของธนาคารที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ หรือที่ Call Center ของ ธ.กรุงเทพ (โทร. 1333) ธ.กรุงไทย (โทร. 1551) ธ.กสิกรไทย (โทร. 02-8888888 กด 02) ธ.ไทยพาณิชย์ (โทร. 02-777-7777)
- หน้าแรก
- ประวัติธนาคารกสิกรไทย (KBank)
- เกี่ยวกับ KBank
- โครงสร้างองค์กร
- ผลิตภัณฑ์
- นักลงทุนสัมพันธ์KBank
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ข่าวธนาคารกสิกร
- ข่าวการลงทุน
- ข่าวความร่วมมือ
- ข่าวผลิตภัณฑ์และโปรโมชั่น
- ข่าวการจัดอบรมและสัมนา
- กรณีศึกษาโครงสร้างของการจัดองค์กร ธนาคารกสิกรไทย
- อัตราดอกเบี้ย(KBank), โครงสร้างของแหล่งที่มาและใช้ไป
- การตลาดKBank
- กิจกรรมศึกษาดูงาน
- คณะผู้จัดทำ
วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
กสิกรไทยระบุปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง
กสิกรไทยเชื่อทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังไปได้สวย ย้ำภาคธุรกิจได้รับผลบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งผลธุรกิจเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งหลังปี 57 ทั้งภาคเกษตร ภาคครัวเรือน และการลงทุนของธุรกิจขนาดใหญ่ ดันผลประกอบการธนาคารเติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลรายได้ค่าธรรมเนียมปี 57 โต 10% ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ ในภาคการส่งออกแม้จะมีการปรับประมาณการเติบโตของปี 2557 ลดลงจาก 5% เป็น 3% แต่ยังถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในครึ่งปีหลัง เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยอุตสาหกรรมหลักที่ผลักดันการส่งออกได้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการคาดการณ์การเติบโตที่ 12% ในครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่เติบโตเพียง 3% ทั้งนี้ยังมีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รออนุมัติอีกกว่า 4 แสนล้านบาทในปีนี้ ซึ่งหากสามารถผลักดันโครงการต่าง ๆ ออกมาได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังสดใสยิ่งขึ้นไปอีก
นายวศินกล่าวในตอนท้ายว่า จากทิศทางในเชิงบวกของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 จะทำให้มีธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารกสิกรไทยไม่น้อยกว่า 24 ล้านล้านบาท ซึ่งจะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้รายไดจากค่าธรรมเนียมทั้งปีเติบโต 10% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายวศิน วณิชยวรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจและธุรกิจไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวจากสัญญาณที่มีนัยสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง 3 เรื่อง คือ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 พร้อมจัดทำงบประมาณปี 2558 ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 การเร่งอนุมัติโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ (BOI) มูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท และการช่วยเหลือเกษตรกรเรื่องการคืนเงินโครงการจำนำข้าวแก่ชาวนาจำนวน 9.2 หมื่นล้านบาทนั้น จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้จีดีพีในครึ่งปีหลังเป็น 4.3% โดยมีผลทำให้จีดีพีเฉลี่ยทั้งปี 2557 ปรับจาก 1.8% ขึ้นเป็น 2.3% ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อปัจจัยหลักของการเติบโตของจีดีพี อันได้แก่ การใช้จ่ายของภาครัฐ การลงทุนของภาคเอกชน การบริโภคของประชาชน ส่วนการส่งออกสุทธิที่เป็นปัจจัยที่ 4 ของการเติบโตของจีดีพีนั้น จะสามารถกระเตื้องขึ้นได้เป็น 3% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่าปี 2556 ที่ติดลบอยู่ 0.2%
ด้านการใช้จ่ายของภาครัฐส่งผลให้มีเม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบซึ่งส่งผลเชิงบวกโดยตรงต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีโครงการที่น่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปี2557-2558 มูลค่ารวมประมาณ 4.8 แสนล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่เกี่ยวกับเส้นทางคมนาคมเป็นหลัก ได้แก่โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟสสอง การปรับปรุงสนามบินดอนเมือง รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นต้น ทิศทางเชิงบวกของโครงสร้างพื้นฐานประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลต่อการลงทุนของภาคเอกชน ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวขึ้นได้โดยมีอัตราการเติบโตที่ 5.8% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกทม.และปริมณฑล จะขยายตัวถึง 3.4% จากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 13.1%
ในขณะที่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในช่วงครึ่งปีหลังก็จะเพิ่มสูงขึ้นจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งของเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบนี้ได้มาจากการจ่ายค่าค้างชำระโครงการจำนำข้าวให้แก่ชาวนามูลค่า 9.2 หมื่นล้านบาท ดันให้ธุรกิจค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตตามกันไป เนื่องจากมีอุปสงค์หรือความต้องการของผู้บริโภคในตลาดกลับเข้ามา จะเห็นได้จากตัวอย่างการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทเครื่องดื่ม ที่ธนาคารเป็นผู้รับดำเนินการ ที่สามารถทำราคาเข้าตลาดหรือไอพีโอได้สูงกว่าเป้าหมายและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันที่จองหุ้นล้นหลามมากถึง 18 เท่าของจำนวนหุ้นที่เปิดขาย ซึ่งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีมูลค่าตลาดกว่า 1.8 ล้านล้านบาท และยังสามารถเติบโตได้อีกมาก นอกจากนี้ ธุรกิจค้าปลีกยังเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงหลังของปี การเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าใหม่ ๆ และโครงการยักษ์ใหญ่ที่จะเปิดตัวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหลายโครงการก็เร่งดำเนินการกันต่อเพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ทันกับความต้องการและศักยภาพการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคนอกจากนี้ ในภาคการส่งออกแม้จะมีการปรับประมาณการเติบโตของปี 2557 ลดลงจาก 5% เป็น 3% แต่ยังถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในครึ่งปีหลัง เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยอุตสาหกรรมหลักที่ผลักดันการส่งออกได้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการคาดการณ์การเติบโตที่ 12% ในครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่เติบโตเพียง 3% ทั้งนี้ยังมีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รออนุมัติอีกกว่า 4 แสนล้านบาทในปีนี้ ซึ่งหากสามารถผลักดันโครงการต่าง ๆ ออกมาได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังสดใสยิ่งขึ้นไปอีก
นายวศินกล่าวในตอนท้ายว่า จากทิศทางในเชิงบวกของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 จะทำให้มีธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารกสิกรไทยไม่น้อยกว่า 24 ล้านล้านบาท ซึ่งจะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้รายไดจากค่าธรรมเนียมทั้งปีเติบโต 10% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ที่มา :http://www.kasikornbank.com/th/whathot/pages/CBS_H2-2014.aspx
กสิกรไทยจับมือแมคโดนัลด์มอบความสุขให้ลูกค้ากับแคมเปญ แค่คลิกก็อิ่มได้
นางขวัญเนตร รัตนพฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนางสาวเพชรัตน์ อุทัยสาง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด มอบความสุขให้ลูกค้าด้วยแคมเปญ “แค่คลิกก็อิ่มได้” สำหรับลูกค้าที่สมัครใช้บริการ K-Cyber Banking และ K-Mobile Banking PLUS เลือกแลกฟรี 5 เมนูสุดฮิตจากแมคโดนัลด์ ได้แก่ ดีลักซ์ชีสเบอร์เกอร์ แมคไก่ แมคฟิช ซามูไรเบอร์เกอร์หมู แมคนักเกต รวมกว่า 100,000 ชุด และพิเศษ ลูกค้าที่สมัครบริการ K-Cyber Banking ที่สาขาตลอดเดือนกรกฎาคม รับคูปองแลกเฟรนช์ฟรายส์เล็ก ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 57 แลกได้ที่สาขาแมคโดนัลด์ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ที่มา : กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ธนาคารกสิกรไทย แถลงข่าวเปิดตัว เดอะ วิสดอม เลาจน์ แอด เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ด้วย ธนาคารกสิกรไทย จะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์บริการ เดอะ วิสดอม เลาจน์ แอด เซ็นทรัล เอ็มบาสซี (THE WISDOM Lounge @ Central Embassy) ที่รวมที่สุดของบริการทางการเงิน และที่สุดของสิทธิพิเศษด้านไลฟ์สไตล์ที่เข้าถึงทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าพิเศษ พร้อมแนะนำศูนย์บริการตู้นิรภัยระบบอัจฉริยะ ซึ่งมีความทันสมัยที่สุดด้วยระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกที่แรกในประเทศไทย โดยนายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้แถลงข่าว ในวันพุธที่ 25 มิถุนายน 2557 ณ ศูนย์บริการเดอะ วิสดอม เลาจน์ ชั้น 4 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ตามกำหนดการดังนี้
10.30 น. ลงทะเบียนสื่อมวลชน
11.00 น. เริ่มแถลงข่าว
12.00 น. เสร็จสิ้นการแถลงข่าว และร่วมรับประทานอาหาร ณ ร้าน Coffee Bean by Dao ชั้น 3
(ฝั่งเซ็นทรัล ชิดลม ใกล้ร้านกาแฟสตาร์บัค)
ที่มา : http://www.newswit.com
วันจันทร์ที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
กสิกรไทยเปิดศูนย์สินเชื่อฯ รองรับผู้อยู่อาศัยย่านราชพฤกษ์
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดศูนย์สินเชื่อรายย่อย (K-Express Credit Center) สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ เพื่อบริการลูกค้ารายย่อยย่านถนนราชพฤกษ์กว่า 50,000 ครัวเรือน ที่มีความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทต่างๆ เน้นรู้ผลเร็ว ครอบคลุม 4 บริการหลัก ได้แก่ สินเชื่อบ้านกสิกรไทย (K-Home Loan) บัตรเครดิตกสิกรไทย (K-Credit Card) สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย (K-Auto Finance [Refinance]) และสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย (K-Express Cash) รับเงินใน 1 ชั่วโมงหลังอนุมัติ พร้อมบริการให้คำปรึกษาทางการเงิน ช่วยวางแผนสินเชื่อ โดยปีนี้ธนาคารวางแผนเปิดศูนย์สินเชื่อรายย่อยอีก 3 ศูนย์
ที่มา : http://www.newswit.com
วันจันทร์ที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
ธนาคารกสิกรไทย จัดกิจกรรม K-Expert Workshop 3 ก้าว ค้นหาอาชีพเสริม สร้างรายได้อย่างมั่นใจ
ธนาคารกสิกรไทย จัดกิจกรรมเอาใจคนมีฝันกับ K-Expert Workshop "3 ก้าว ค้นหาอาชีพเสริม สร้างรายได้อย่างมั่นใจ" ที่จะช่วยคุณค้นหาอาชีพเสริมที่ใช่จากสิ่งที่ชอบ และเติมเต็มความฝันไปพร้อมๆกับความสุข ทั้งยังมีคำแนะนำในเรื่องการเงินจากกูรูตัวจริง ในวันที่ 24 และ 26 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.00 น. ณ. Knowledge center ชั้น 2 ตึกจามจุรีแสควร์ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K-Contact Center 02-888-8888 หรือ www.kasikornbank.com/K-ExpertWorkshop
ที่มา : http://www.newswit.com
วันศุกร์ที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
ธนาคารกสิกรไทย จัดงานสัมมนา Construction Solutions: พลิกวิถีธุรกิจก่อสร้าง SME ไทย
ด้วยธนาคารกสิกรไทยจะจัดงานสัมมนา “Construction Solutions: พลิกวิถีธุรกิจก่อสร้าง SME ไทย” ให้ข้อมูลแนวโน้มธุรกิจก่อสร้างในปี 2557 การเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์การบริหารธุรกิจจากผู้บริหารบริษัทชั้นนำในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้าง ถึงแนวทางการรับมือภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และการตลาด ในวันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2557 ณ ห้องบอลรูม ชั้น 7 โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ตามกำหนดการ ดังนี้
14.00 น. หัวข้อ “เปิดมุมมองด้านการเงินธุรกิจก่อสร้าง” โดยคุณวีรชัย ปฐมเนติกุล
12.15 น. ลงทะบียน และเยี่ยมชมบูธหน้างาน
13.00 น. กล่าวเปิดงานโดย คุณอรรถพล สมิทธิเวทย์วงศ์
ผู้บริหารเครือข่ายลูกค้าผู้ประกอบการ ธนาคารกสิกรไทย
13.15 น. หัวข้อ “รู้ทันเทรนด์ก่อสร้างปี 57” โดยคุณจักรพร อุ่นจิตต์ ผอ.สถาบันการก่อสร้างไทย14.00 น. หัวข้อ “เปิดมุมมองด้านการเงินธุรกิจก่อสร้าง” โดยคุณวีรชัย ปฐมเนติกุล
ผู้บริหารงานผลิตภัณฑ์ลูกค้าผู้ประกอบการ ธนาคารกสิกรไทย
14.30 น. พักรับประทานอาหารว่าง
15.00 น. เสวนา “ปรับกลยุทธ์รับมือธุรกิจก่อสร้างปี 57” โดย
คุณไผท ผดุงถิ่น ผู้บริหารสูงสุด บริษัท บิลค์ เอเชีย จำกัด
คุณพงศ์พันธ์ ธีระจรุงเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิศวภัทร์ จำกัด
คุณนาตยา ตั้งมิตรประชา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดูโฮม ในเครืออุบลวัสดุ
ที่มา : http://www.newswit.com
วันศุกร์ที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
กสิกรไทยหนุนผู้รับเหมาธุรกิจโทรคมนาคมไทยเจาะตลาดพม่า
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.แอล.ที. อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาติดตั้ง ซ่อมบำรุงสถานีระบบสัญญาณสื่อสาร และจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าในงานสื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำของไทย ร่วมลงนามในสัญญาแต่งตั้งธนาคารกสิกรไทย ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในประเทศพม่า ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อเร็ว ๆ นี้
ที่มา : http://www.newswit.com
วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
เครือสินธรณีฯ ร่วมยินดี เปิด K Bank ฉลองเปิดสาขาใหม่ สาขาวิคตอเรีย การ์เด้นส์
ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับโครงการ วิคตอเรีย การ์เด้นส์ ฉลองเปิดธนาคารกสิกรไทย สาขาใหม่ สำนักงานย่อย สาขาวิคตอเรีย การ์เด้นส์ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ปราณี เผอิญโชค ประธานกรรมการบริหาร, คุณแก้วใจ เผอิญโชค แมคโดนัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คุณประสงค์ ปิยะธนะศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สินธรณี พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด และ คุณทนง สมบัติพานิช ผู้บริหารเครือข่ายการบริการและการขาย 3 ธนาคารกสิกรไทย ร่วมเปิดพิธีอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน อย่างชื่นมื่น พร้อมมอบโปรโมชั่นร่วมกับธนาคารฯ มอบความสุขและสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานย่อย สาขาวิคตอเรียการ์เด้นส์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.00 น.
ที่มา : http://www.newswit.com
วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
โซ้ย... ได้ลุ้น! แพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบอันซีน นิกโก้-โตเกียว 10 รางวัล 20 ที่นั่ง
แซม-ไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สุดฤทัย ทองสอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย สานต่อแคมเปญ OISHI “FLY ME TO JAPAN” โชค 2 ชั้น...มันส์ถึงญี่ปุ่น! ปี 2 ภายใต้แนวคิดที่ว่า โซ้ยได้ลุ้น! พร้อมส่งมอบสิทธิประโยชน์ พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทย ด้วยส่วนลดสูงถึง 15% พ่วงรางวัลพิเศษ! แพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบอันซีน “นิกโก้ – โตเกียว” จำนวน 10 รางวัล 20 ที่นั่ง เมื่อใช้บริการที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำในเครือโออิชิซึ่งได้แก่ (1) โออิชิ แกรนด์ (2) โออิชิ บุฟเฟต์ (3) ชาบูชิ (4) นิกุยะ (5) โออิชิ ราเมน และ (6) คาคาชิ รวมมากกว่า 190 สาขาทั่วประเทศ วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2557 นี้เท่านั้น เพิ่มเติมคลิ๊กโออิชิกรุ๊ปดอทคอม: www.oishigroup.com
ที่มา : http://www.newswit.com
วันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย จัดงานสัมมนา SMEs Seminar: จับทิศรอบด้าน..สร้างโอกาสโตแบบยั่งยืน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย ขอเชิญท่านหรือผู้แทน ร่วมงานสัมมนา “SMEs Seminar: จับทิศรอบด้าน..สร้างโอกาสโตแบบยั่งยืน” วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2557 เวลา 13.30–16.00 น.ณ หอประชุมศาสตรจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถ.รัชดาภิเษก ตามกำหนดการ ดังนี้
13.30 น. ลงทะเบียน
14.00 น. กล่าวต้อนรับ
โดย คุณประพันธ์ เจริญประวัติ
ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
14.10 น. กล่าวเปิดงาน
โดย คุณพิภวัตว์ ภัทรนาวิก
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย
14.20 น. SMEs Seminar: จับทิศรอบด้าน...สร้างโอกาสโตแบบก้าวกระโดด
โดย คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
คุณสกุณา บ่ายเจริญ
รองประธานผู้จัดการ บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน)
ดำเนินรายการโดยคุณขวัญชนก วุฒิกุล ผู้ดำเนินรายการวิทยุ FM 90.5
16.00 น. เสร็จสิ้นการสัมมนา
ที่มา : http://www.newswit.com
วันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กสิกรไทยผนึกเมืองไทยประกันชีวิต ออกบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด ตั้งเป้าออกบัตร 2 แสนใบ ภายใน 3 ปี
กสิกรไทย รุกผู้นำบัตรเครดิตผนึกพันธมิตรเมืองไทยประกันชีวิต ฉลอง 10 ปี เมืองไทยสไมล์คลับ ออกบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด รองรับสมาชิกกว่า 800,000 คน รับสิทธิสุดพิเศษ รูดชำระค่าเบี้ยประกันภัย เมืองไทยประกันชีวิต รับเงินคืนสูงสุด 0.25 % โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน โปรโมชั่นเอ็กซ์คลูซีพต่อเนื่องตลอดปี คะแนนสะสมสูงสุด 3 เท่า ประกันอุบัติเหตุวงเงินสูงสุด 20 ล้าน ตั้งเป้าออกบัตร 2 แสนใบภายใน 3 ปี
บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด จะมี 4 รูปแบบ คือ Smile, Platinum, Prestige และจะเป็นครั้งแรกที่มีการออกบัตรเครดิต Pink Gold ซึ่งเป็นบัตรระดับพรีเมี่ยมที่รวมเอกสิทธมากมาย ทั้งนี้ ธนาคารฯ ตั้งเป้าออกบัตรดังกล่าวไว้ 200,000 ใบ ภายใน 3 ปี และมีมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตร 9,000 ล้านบาท
สำหรับเอกสิทธิ์ทั้งด้านการเงินและประกันที่พิเศษสุดของผู้ถือบัตรเมือง ไทยสไมล์เครดิตการ์ด คือ ชำระค่าเบี้ยประกันภัยของเมืองไทยประกันชีวิตผ่านบัตรจะได้รับเงินคืนสูงสุด 0.25 % ของค่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระ โดยไม่จำกัด จำนวนเงิน พร้อมวงเงินประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง 8-20 ล้านบาท ได้รับคะแนนสะสมบัตรเครดิต KBank Reward Point และสามารถนำมาคะแนนสะสมมาใช้แลกไมล์สะสม (ROP mile) ของการบินไทย และในกรณีที่ลูกค้ารูดชำระค่าเบี้ยประกันภัยของเมืองไทยประกันชีวิต จะได้รับคะแนนสะสม 2 ต่อ คือ คะแนนสะสม KBank Reward Point และคะแนนสะสม Smile Point ด้วย รวมทั้งรับคะแนนสะสม KBank Reward Point พิเศษสูงสุด 3 เท่า สำหรับยอด ใช้จ่ายในกลุ่มร้านค้าเพื่อสุขภาพที่เข้าร่วมโครงการ
ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิ์ในการใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2 ครั้งต่อปี เมื่อเดินทางต่างประเทศด้วยสายการบินไทย สิทธิประโยชน์ในการเข้าร่วมกิจกรรมของเมืองไทยสไมล์คลับ พร้อมรับส่วนลดจากร้านค้าที่เป็นพันธมิตรกับเมืองไทยสไมล์คลับ รวมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นส่วนลดและข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าพันธมิตร ต่างๆ ที่ร่วมรายการกับบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ทั้งเที่ยว บิน กิน ช้อป ซึ่งมีมากกว่า 400 แคมเปญตลอดทั้งปี
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมบัตรเครดิตกสิกรไทย ปัจจุบันมีฐานบัตรรวมเกือบ 3.3 ล้านใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยสูงที่สุดในตลาด อยู่ที่ 17,300 บาทต่อบัตรต่อเดือน ด้านยอดใช้จ่ายสะสม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2557 อยู่ที่ 119,000 ล้านบาท ครองอันดับ 1 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่ง 21% ขณะที่เมื่อวิเคราะห์ยอดการใช้จ่ายพบว่าเป็นการชำระค่าเบี้ยประกันภัยมากที่ สุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยสัดส่วน 14% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด รองลงมาเป็น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง มีสัดส่วนเป็น 11% และสุขภาพความงาม มีสัดส่วนเป็น 8% ทั้งนี้ ธนาคารฯ ตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2557 จะขยายฐานบัตรเครดิตใหม่จำนวน 715,000 บัตร และมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตรวม 3.6 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 ราว 16% มียอดใช้จ่ายทั้งหมดผ่านบัตร อยู่ที่ 3.44 แสนล้านบาท ขยายตัว ราว 31% รวมทั้งประมาณการยอดสินเชื่อ คงค้างหลังปรับฐาน สิ้นปี 2557 จะอยู่ที่กว่า 72,000 ล้านบาท ขยายตัวในช่วง 11-12%
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด เป็นความร่วมมือของบริษัทฯ และธนาคารกสิกรไทย เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี เมืองไทยสไมล์คลับ ด้วยแนวคิด “บัตรประกันความประทับใจของคนหัวคิดทันสมัย” เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการรับบริการของลูกค้าตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ให้สมาชิกฯ ผู้ถือบัตรทุกประเภท ให้ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษจาก ทั้งเมืองไทยสไมล์คลับและธนาคารกสิกรไทย
ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญด้วยการเปิดตัวครั้งแรกของ “บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด Pink Gold” บัตรระดับพรีเมี่ยมที่มีความโดดเด่นจากการรวบรวมสิทธิประโยชน์ระดับเอ็กคลู ซีฟ อาทิ ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุการเดินทางวงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท บริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินเมื่อเดินทางไปต่างประเทศตลอด 24 ชั่วโมง สิทธิ์ในการใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิและต่างจังหวัด เมื่อเดินทางด้วยสายการบินไทย 2 ครั้งต่อปี รับคะแนนสะสม KBank Reward Point พิเศษ 3 เท่า เมื่อใช้จ่ายในกลุ่มร้านค้าหมวดสุขภาพที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งร้านค้า สนามกอล์ฟ สปอร์ตคลับชั้นนำอีกมากมาย ตลอดจนสิทธิประโยชน์พิเศษที่ศูนย์การค้า โรงแรม และโรงพยาบาลพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมเอ็กคลูซีฟจากเมืองไทยสไมล์คลับอีกด้วย ทั้งนี้ลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตที่เป็นสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ที่ชำระเบี้ยประกันภัยที่ 500,000 บาทขึ้นไปจะได้รับสิทธิ์ในการสมัครบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด ระดับ Pink Gold
ในโอกาสนี้บริษัทฯ ยังได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อฉลองการเปิดโครงการใหม่ในช่วงแนะนำ 3 เดือนแรก ที่เปิดให้บริการแก่ลูกค้า คือตั้งแต่เดือนสิงหาคม ศกนี้ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการโดยชำระเบี้ยประกันภัย เพียงปีละ 300,000 บาท จะได้รับสิทธิ์ในการสมัครบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด ระดับ Pink Gold ซึ่งแบบประกันดังกล่าว บริษัทฯ ได้ทำการคัดสรรมาเพื่อให้ตอบโจทย์เป้าหมายการออมอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะสั้น แต่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า พร้อมมั่นใจกับความคุ้มครองชีวิต ประกอบไปด้วย 3 แบบประกัน ดังนี้ โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 14/7 เมืองไทย ทวีทรัพย์ 15/7 พลัส และเมืองไทย ธนทวี 15/10 ทั้งนี้การพิจารณาการออกบัตรเครดิตเป็นไปตามเงื่อนไขของทางธนาคารกสิกรไทย
ด้านภาพรวมกิจกรรมของเมืองไทยสไมล์คลับในปี 2557 นี้ อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ เมืองไทยสไมล์คลับ “10 Years Real Smile Real Style” เข้มข้นขึ้นด้วยกิจกรรมและสิทธิพิเศษมากมายให้สมาชิกในช่วงนี้ อาทิ สิทธิพิเศษท่องเที่ยวต่างประเทศ 10 ทริปใหญ่ เช่น สัมผัสปักกิ่งมหานครแห่งประวัติศาสตร์ ดูไบดินแดนแห่งขุมทรัพย์ทะเลทราย รัสเซีย มอสโคว์ เซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก ฮอกไกโด-ไทเป และอีกหลายทริป ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมายให้ลูกค้าเลือกตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ อาทิ กิจกรรมเริงลีลาส “ฟลอร์บานเย็น” พร้อมบทเพลงจากสุนทราภรณ์ ชมโชว์พิเศษจากศิลปิน บอย พีชเมกเกอร์ และตุ๊กกี้ กิจกรรมดูหนังเมืองไทย Smile Movie Special Happy Time ขณะเดียวกันนี้ ได้สร้างสรรค์โครงการดี ๆ เพื่อสังคมโดยเปิดโอกาสให้สมาชิกฯ ได้ร่วมสนับสนุน 10 คนต้นแบบที่ทำดีด้วยหัวใจในแคมเปญ เมืองไทย Real Smile Society ซึ่งได้รับการตอบรับจากสมาชิกฯ เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด จะดำเนินการสื่อสารข้อมูลไปยังลูกค้า เพื่อสร้างการรับรู้ กระทั่งถึงช่วงเวลาในการเปิดให้บริการแก่ลูกค้าในเดือนสิงหาคม 2557 โดยสมาชิกเมืองไทย Smile Club สามารถติดตามข่าวสารและเงื่อนไขการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อความสุขและรับสิทธิ พิเศษ ตลอดทั้งปีได้ที่ เว็บไซต์ www.muangthai.co.th เฟซบุ๊ค www.facebook.com/muangthailife และทวิตเตอร์ www.twitter.com/muangthai_smile หรือโทร 1766 เมืองไทย Smile./
ที่มา : http://www.newswit.com
วันจันทร์ที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
CDC จับมือ บัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย แจกรางวัลผู้โชคดี บินลัดฟ้าสู่ญี่ปุ่น
สมเกียรติ วิทยาศิริกุล
(ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด
และสุดฤทัย ทองสอง (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการ
ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย
ร่วมกันจับรางวัลผู้โชคดีจากแคมเปญ ”CDC & The Crystal Summer Paradise
2014” (ซีดีซี และเดอะคริสตัล ซัมเมอร์ พาราไดซ์)
ช้อปลุ้นโชคบินลัดฟ้าสู่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยจำนวน 3 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 200,000
บาท โดยมี สันติ รังษิรจิ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ กรมการปกครอง
และกฤติกา ไชยะกุล ผู้จัดการการตลาดฝ่ายบัตรเครดิต ร่วมเป็นพยาน ณ ซีดีซี
เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา เมื่อวันก่อน
รายชื่อบุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา)
1.) คุณสันติ รังษิรจิ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ
กรมการปกครอง
2.) คุณสมเกียรติ วิทยาศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด
3.) คุณสุดฤทัย ทองสอง ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต
ธนาคารกสิกรไทย
4.) คุณกฤติกา ไชยะกุล ผู้จัดการการตลาดฝ่ายบัตรเครดิต
ธนาคารกสิกรไทย
ที่มา : http://www.newswit.com/
วันศุกร์ที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
กสิกรไทยจับมือเวิร์คพอยท์ต้อนรับการกลับมาของ SME ตีแตก
ตามคำเรียกร้อง รายการเอ็ดดูเทนเมนต์ครบรสที่อัดแน่นด้วยสาระและความบันเทิง หวังให้ผู้ประกอบการนำความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจไปปรับใช้ ประเดิมเทปแรกวันเสาร์ที่ 5 ก.ค. นี้ เวลาดี 3 ทุ่มยี่สิบ ทางช่อง 1 Workpoint
ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงร่วมมือกับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผลิตรายการ “SME ตีแตก” อีกครั้งโดยเนื้อหารายการจะเข้มข้นขึ้น รวมไปถึงธุรกิจที่นำมาออกรายการมีความหลากหลายเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน ช่วยให้เอสเอ็มอีได้รับทั้งสาระและความบันเทิง รวมทั้งมีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจที่สามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับ ธุรกิจของตนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ รูปแบบของธุรกิจที่จะมาออกรายการในซีซั่นใหม่นี้ น่าสนใจและครอบคลุมทุกกลุ่ม อาทิ ธุรกิจยอดนิยม เป็นธุรกิจที่คนสนใจทำเพราะเริ่มต้นไม่ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่มีรากฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจฝ่าวิกฤต เป็นการเรียนรู้จากธุรกิจที่ประสบปัญหาช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และ ธุรกิจเออีซี เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ชมรายการได้เรียนรู้จากธุรกิจที่กำลังขยายตัวพร้อม รับเออีซี
นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษที่คณะกรรมการทั้ง 3 คน คือ คุณพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และคุณวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง จะลงพื้นที่เพื่อสัมผัสและศึกษาแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มาออกอากาศในเชิง ลึกที่สถานประกอบการจริง ทำให้กรรมการมีความเข้าใจในธุรกิจมากขึ้นและสามารถให้คำแนะนำในเชิงลึกมาก ยิ่งขึ้นด้วย โดยมีคุณเกตุเสพสวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หรือน้าเน็ก เป็นพิธีกร
ด้านนายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รายการ SME ตีแตก เป็นรายการที่เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะผู้ประกอบการที่มาร่วมรายการก็จะได้รับประโยชน์กลับไป นอกจากนี้ยังสามารถเผยแพร่ธุรกิจของตัวเองให้คนรู้จักด้วย ส่วนกลยุทธ์ในการบริหารจัดการธุรกิจที่นำมาเสนอก็จะมีผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจ มาให้คำแนะนำถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนผู้ที่ชมรายการก็จะได้ชมธุรกิจหลากหลายรูปแบบ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตหรือกับธุรกิจของตนเอง ซึ่งนั่นหมายถึงการสนับสนุนให้ธุรกิจ SME ในประเทศไทยได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก เพราะฉะนั้นคนไทยไม่ควรพลาดชม เพราะจะได้ทั้งสาระและความบันเทิงเต็มรูปแบบ
นายพัชรกล่าวในตอนท้ายว่า รายการ SME ตีแตกกลับมาคราวนี้เพื่อมอบสาระและความบันเทิงแบบครบเครื่องเพื่อให้ผู้ ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจโดยเฉพาะ อย่างยิ่งช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจก็จะมีธนาคารกสิกรไทยอยู่เคียงข้าง อย่างสโลแกน “K SME ช่วยเต็มที่ เอสเอ็มอีมีแต่ได้” ติดตามความสนุกสนานได้ทุกวันเสาร์ เวลาดี 21.20-22.20 น. ทางช่อง 1 Workpoint ออกอากาศครั้งแรกวันเสาร์ที่ 5 ก.ค.นี้
ที่มา : http://www.newswit.com
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
ธนาคารกสิกรไทย และ เมืองไทยประกันชีวิต จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด
ด้วยธนาคารกสิกรไทยและ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด” โดยมีนายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แถลงข่าว ในวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2557 ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน ตามกำหนดการ ดังนี้
13.00 น. ลงทะบียน และเชิญร่วมกิจกรรมในบูธต่าง ๆ ตามอัธยาศัย
13.30 น. แถลงข่าวเปิดตัว “บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด”
14.00 น. ถาม-ตอบ
16.00-19.00น. กิจกรรมบันเทิง
ที่มา : http://www.newswit.com
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
บัตรเครดิตกสิกรไทยจับมือโรงแรมสยามเคมปินสกี้ มอบโชคใหญ่ บินไกลถึงมัลดีฟส์
นางสาวสุดฤทัย ทองสอง
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย
ร่วมกับคุณแอนเดรีย มูเกอร์ รองผู้จัดการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้
กรุงเทพฯ เชิญชวนคู่รัก ว่าที่คู่บ่าวสาว เยี่ยมชมงานเทศกาลวิวาห์ The
Glamorous Gatsby – Inspired พร้อมมอบโชคใหญ่ รับคะแนนสะสมรวมสูงสุด x5
เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยตามเงื่อนไข
และพิเศษสุดสำหรับผู้ที่วางมัดจำในงานเป็นเงินจำนวนรวมสูงสุด
จะได้รับตั๋วเครื่องบินไปกลับ มัลดีฟส์ 2 ที่นั่ง
โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มูลค่ารวมกว่า 89,000
บาทสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม K-Contact Center โทร 02-888-8888 กด*8
ที่มา : http://www.newswit.com
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กสิกรไทยออกประกันชีวิต “ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ”
กสิกรไทยออกกรมธรรม์ใหม่ “ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ” ประกันชีวิตควบออมทรัพย์ที่เงื่อนไขดีที่สุด เน้นเจาะลูกค้าระดับกลาง ชูผลตอบแทนสูงสุดถึง 3.5% จ่ายเบี้ยเพียง 5 ปี คุ้มครองนาน 10 ปี มีเงินจ่ายคืน 2% ทุกปี ครบสัญญาได้ผลประโยชน์รวมถึง 130% ลดหย่อนภาษีได้ตั้งเป้าขายปีนี้ 50,000 กรมธรรม์ เผยเบี้ยประกันรวม 4 เดือนแรกโตถึง 34%
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต ออกกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่ล่าสุด “ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ” (Pro Saving 510) ซึ่งจะเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการออมเงินที่เงื่อนไขดีที่สุด ด้วยจุดเด่นตรงใจลูกค้าที่จ่ายเบี้ยประกันต่ำ ผลประโยชน์สูงโดยลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันเพียง 5 ปี ได้รับการคุ้มครองยาว 10 ปี ได้รับเงินจ่ายคืน 2% ตั้งแต่ปีที่ 1-9 และในปีที่ 10 จะได้รับเงินครบสัญญา 112% รวมรับผลประโยชน์สูงถึง 130% ทั้งนี้ผู้ทำสามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้โดยจะรับประกันสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนถึง 65 ปี ทุนประกันตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท
ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้ศึกษาความต้องการของกลุ่มลูกค้าบุคคลระดับกลาง (Middle Income Segment) ที่มีขนาดตลาดถึง 12 ล้านคน จึงเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่มีศักยภาพสูง พบว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความฝัน ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุน้อยต้องการความมั่นคง มีชีวิตที่สุขสบาย และเริ่มมองหาการออมการลงทุน ดังนั้นการออกแบบกรมธรรม์ “ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ” ให้เป็นการประกันชีวิตควบการออมทรัพย์ที่ชำระเบี้ยประกันต่ำกว่ากรมธรรม์ ลักษณะคล้ายกันในตลาด แต่ให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงหรือสูงกว่า น่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ารายได้ระดับกลาง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ให้ความคุ้มครอง แต่ยังสามารถเป็นตัวเลือกในการออมได้อย่างดีอีกด้วย โดยธนาคารตั้งเป้าการขายในปีนี้ไว้ที่ 50,000 กรมธรรม์
สำหรับผลการดำเนินงานของ K-Bancassurance ธนาคารกสิกรไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 มีเบี้ยประกันรับใหม่ทั้งสิ้นกว่า 8,600 ล้านบาท โตขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีเบี้ยประกันรับรวมกว่า 16,500 ล้านบาท เติบโตที่ประมาณ 30% สำหรับภาพรวมธุรกิจประกัน ทั้งธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่ผ่านมา ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ค่อนข้างผันผวน ซึ่งอัตราการเติบโตในภาพรวมในปีนี้จะชะลอตัวจากปีที่แล้วเล็กน้อย โดยธุรกิจประกันชีวิตมีอัตราเติบโตประมาณ 12% และประกันวินาศภัยเติบโตประมาณ 10%
ด้านตัวเลขภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตทั้งตลาดจากสมาคมประกันชีวิตไทย พบว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมีเบี้ยประกันชีวิตรับใหม่รวมทุกช่องทางประมาณ 50,000 ล้านบาท เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีเบี้ยประกันรับรวมทั้งหมดกว่า 135,000 ล้านบาท เติบโต 23% ส่วนภาพรวมตลาด Bancassurance ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีเบี้ยประกันรับใหม่กว่า 32,800 ล้านบาท เติบโต 45% และมีเบี้ยประกันรับรวมกว่า 65,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 43%จะเห็นได้ว่าช่องทาง Bancassurance เป็นช่องทางที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจประกันชีวิตในภาพรวมเติบโตมากขึ้นจากปีก่อน
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้นำในธุรกิจ Bancassurance มีนโยบายที่จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจลูกค้าในทุกกลุ่มลูกค้าผ่านสาขาของธนาคารด้วยบริการที่ยอดเยี่ยม (Best Product with Excellent Service) และสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ควบคู่กับบริการให้คำปรึกษา (K-Expert) ด้วยการศึกษาถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างลึกซึ้งเพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเพื่อให้มั่นใจว่าจะส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมที่สุดและตรงใจที่สุดให้กับลูกค้า
ที่มา : http://www.kasikornbank.com
วันที่ : วันพุธที่ 11 มิถุนายน 2557
กสิกรไทย ออกแคมเปญ สลิปพารวย แจกทองทุกอาทิตย์ แจกสวิฟท์ทุกเดือน
นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดแคมเปญ สลิปพารวย แจกทองทุกอาทิตย์ แจกสวิฟท์ทุกเดือน สำหรับลูกค้าที่ทำรายการฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ชำระค่าสินค้า เติมเงินมือถือ หรือสมัครบริการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม เครื่องฝากเงินอัตโนมัติธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยเขียนชื่อ นามสุกล พร้อมเบอร์โทรศัพท์ด้านหลังสลิป ส่งมาที่ ตู้ ปณ.18 ปณศ. นนทบุรี 11000 ลุ้นรับรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 รางวัลทุกสัปดาห์ และแจกรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ ทุกเดือน รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เริ่มจับรางวัลเดือนกรกฎาคม 2557 ประกาศผลบนเว็บไซต์ www.kasikornbank.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ K-Contact Center 02-8888888 หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศไทย
ที่มา : http://www.kasikornbank.com
วันที่ วันพุธที่ 11 มิถุนายน 2557
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557
‘กสิกรไทย’ คาด บอลโลก 2014 จับจ่ายคึก เงินสะพัด 2.1 หมื่นล้าน บ.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินบอลโลกครั้งที่ 20 ไม่หวั่นเศรษฐกิจ-การเมืองกดดัน คาดเงินสะพัด 21,600 ล้านบาท ธุรกิจกลุ่มอุปกรณ์การรับชมรับเม็ดเงินสูงสุด...
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการณ์ว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 จะมีบรรยากาศความคึกคักแตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลาในการรับชม แต่ก็คาดว่าโดยรวมแล้ว มหกรรมฟุตบอลโลกรอบนี้ จะยังส่งผลบวกต่อภาคธุรกิจจำหน่ายสินค้าบริโภคและสินค้าที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลุ่มอุปกรณ์การรับชม กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มเสื้อผ้ากีฬา เป็นต้น
ขณะที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากการพยายามเข้าถึงการรับชมของฐานจำนวนผู้ชมที่เพิ่มขึ้น และมีความหลากหลายมากขึ้น ราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงแรงกระตุ้นจากการทำกิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing) เพื่อเกาะกระแสมหกรรมฟุตบอลของผู้ประกอบการ
คาดว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจจำหน่ายสินค้าบริโภคและสินค้าที่เกี่ยวข้องในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2557 ประมาณ 21,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 เมื่อเทียบกับช่วงปกติ โดยธุรกิจกลุ่มอุปกรณ์การรับชมจะมีมูลค่าสูงถึง 13,500 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มธุรกิจเสื้อผ้ากีฬาจะมีมูลค่าอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่จะตกอยู่ที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2553 ที่เม็ดเงินส่วนใหญ่จะตกไปอยู่ที่ธุรกิจสินค้าบริโภค
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของไทยในช่วงที่ผ่านมา อาจกดดันบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชน และได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยภาพรวม โดยเฉพาะธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคต่างๆ แต่คาดว่า มหกรรมฟุตบอลโลกครั้งที่ 20 ณ ประเทศบราซิล ที่จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิ.ย.- 13 ก.ค. 2557 ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาที่คนทั่วโลกรอคอยมากที่สุด จะเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญที่ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค กลับมาคึกคักอีกครั้ง.
คาดว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจจำหน่ายสินค้าบริโภคและสินค้าที่เกี่ยวข้องในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2557 ประมาณ 21,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 เมื่อเทียบกับช่วงปกติ โดยธุรกิจกลุ่มอุปกรณ์การรับชมจะมีมูลค่าสูงถึง 13,500 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มธุรกิจเสื้อผ้ากีฬาจะมีมูลค่าอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่จะตกอยู่ที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2553 ที่เม็ดเงินส่วนใหญ่จะตกไปอยู่ที่ธุรกิจสินค้าบริโภค
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของไทยในช่วงที่ผ่านมา อาจกดดันบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชน และได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยภาพรวม โดยเฉพาะธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคต่างๆ แต่คาดว่า มหกรรมฟุตบอลโลกครั้งที่ 20 ณ ประเทศบราซิล ที่จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิ.ย.- 13 ก.ค. 2557 ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาที่คนทั่วโลกรอคอยมากที่สุด จะเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญที่ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค กลับมาคึกคักอีกครั้ง.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th
วันที่ 10 มิ.ย. 2557 13:02
ธนาคารกสิกรไทยคว้าแชมป์ Best Retail Bank of The Year 2014
ธนาคารกสิกรไทย ครองแชมป์ธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2557 Best Retail Bank of The Year 2014 เป็นธนาคารที่ผู้เข้าชมงาน Money Expo 2014 ตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 ขณะที่ยอดธุรกรรมรวมในงานพุ่ง 9.3 หมื่นล้าน จากผู้เข้าชมงานกว่า 9 แสนคน
รายงานข่าวจาก วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนมิถุนายน 2557 เปิดเผยถึงผลการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าชมงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 14 Money Expo 2014 ที่ วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2557 ว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ครองตำแหน่งธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2557 Best Retail Bank of The Year 2014 โดยเป็นการครองตำแหน่งนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 แล้ว
สำหรับการจัดอันดับดังกล่าว วารสารการเงินธนาคาร ได้รับความร่วมมือจาก สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าชมงาน Money Expo 2014 ซึ่งผลปรากฏว่า ธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารที่ผู้เข้าชมงาน Money Expo 2014 ตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุด
โดยให้เหตุผลว่า ธนาคารกสิกรไทยมีความน่าเชื่อถือ มีบริการหลากหลายตรงกับความต้องการ แคมเปญโปรโมชั่นที่นำมาเสนอในงานมีความโดดเด่น น่าสนใจ ให้สิทธิประโยชน์ตรงใจ พนักงานของธนาคารที่ให้บริการในบูธให้การต้อนรับดี เต็มใจให้คำแนะนำปรึกษา ให้ข้อมูลครบถ้วน เข้าใจง่าย
ความสำเร็จของธนาคารกสิกรไทยกับตำแหน่งธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี Best Retail Bank of The Year ที่สามารถครองใจผู้เข้าชมงาน Money Expo ไว้ได้ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เกิดจากการใส่ใจของผู้บริหารระดับสูงที่มาดูแลบริหารจัดการบูธด้วยตัวเอง พร้อมปรับกลยุทธ์เงื่อนไขแคมเปญรับมือกับการแข่งขันที่เกิดขึ้นภายในงาน ควบคู่กับการดูแลพนักงานภายในบูธให้มีการบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ตลอดทั้ง 4 วันของการจัดงาน
นอกเหนือจากตำแหน่งเกียรติยศนี้แล้ว ธนาคารกสิกรไทยยังประสบความสำเร็จกับเป้าหมายยอดธุรกรรมและจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการอีกด้วย
ปีนี้ธนาคารกสิกรไทยและบริษัทในเครือมาออกบูธในงาน Money Expo 2014 ภายใต้แนวคิด “K LIFE TERMINAL” ณ ที่แห่งนี้ คือจุดเชื่อมต่อทุก Life Solution ที่ตอบสนองการบริหารการจัดการทางด้านการเงินที่ทันสมัย สามารถ Connecting Life ได้ตรงกับทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มและทุก Lifestyle โดยเชื่อมโลกดิจิตอลสู่ชีวิตล้ำสมัยให้ยิ้มได้กับชีวิตไว้ใน 2 โซนคือ โซนตลาดเงินในพื้นที่ขนาด 1,000 ตารางเมตร นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร และในโซน Digital Banking นำเสนอนวัตกรรมทางการเงินในยุคดิจิตอล โดยมีโปรโมชั่นพิเศษและเกมส์ลุ้นของรางวัลง่ายๆ ในช่วง Happy Hour รวมถึงความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ร่วมงานทั้งบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการ
เริ่มด้วยสินเชื่อบ้านกสิกรไทย (K-Home Loan) มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้เลือกถึง 6 แบบ พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ คลาส สินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย (K-Express Cash) เสนอแคมเปญ “สมัครยกกรุ๊ปแจกยกก๊วน” รับของรางวัลจาก LINE Limited Edition และจี้ทองคำแท้หนัก 50 สตางค์
บัตรเครดิตกสิกรไทย (K-Credit Card) มอบโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ผู้สมัครใช้บริการหักบัญชีชำระบัตรเครดิตอัตโนมัติ (Auto-Payment) รับเพิ่มคะแนนสะสมพิเศษ 1,000 คะแนน เมื่อมีรายการหักบัญชีชำระบัตรเครดิตอัตโนมัติ 1 รอบบัญชี และหากสมัครใช้บริการร้านค้ารับบัตรเครดิตกสิกรไทยผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (K-PowerP@y) ภายในงาน รับทันทีบัตรเติมน้ำมัน ปตท. มูลค่า 1,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ด้านการออมและการลงทุนมานำเสนอด้วย เช่น บริการเงินฝากกสิกรไทย (K-Deposit) “เงินฝากซูเปอร์ทวีทรัพย์” ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 3.5% ต่อปี ไม่เสียภาษี กองทุนรวมกสิกรไทย (K-Mutual Fund) รับหน่วยลงทุน K-Money สูงสุด 3,950 บาท หลักทรัพย์กสิกรไทย (K-Securities) เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในงานรับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและทรัพย์สินกสิกรไทย (K-Bancassurance) รับของสมนาคุณมากมาย
ด้านผู้ประกอบการที่สมัครสินเชื่อธุรกิจในงาน ได้รับสิทธิสมัครสินเชื่อเพื่อธุรกิจแบบฟรีดอกปลอดต้นเป็นระยะเวลา 1 งวดแรก และรับฟรี เครื่อง K-PowerP@y มูลค่า 2,500 บาทอีกด้วย
ที่บูธของธนาคารกสิกรไทยยังได้มีการนำนวัตกรรมทางการเงินมาเสนอภายในงาน เช่น บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย (K-Cyber Banking) และบริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือกสิกรไทย (K-Mobile Banking PLUS) ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่ผู้ร่วมงานไม่ควรพลาด รวมทั้งทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินมาให้บริการคำปรึกษา
ที่มา :วารสารการเงินธนาคาร ,http://www.newswit.com
วันที่ 10 มิถุนายน 2557
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557
บัตรเครดิตกสิกรไทย จัดเต็มอีกครั้ง! จับมือ โออิชิ เอาใจลูกค้า ด้วย แคมเปญ OISHI FLY ME TO JAPAN โชค 2 ชั้น มันส์ถึงญี่ปุ่น ปีสอง
นางสาวสุดฤทัย ทองสอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จับมือออก แคมเปญเด็ด OISHI “FLY ME TO JAPAN” โชค 2 ชั้น มันส์ถึงญี่ปุ่น ปีสอง กับบัตรเครดิตกสิกรไทย มอบส่วนลด 15% เมื่อรับประทานอาหารที่ร้านโออิชิแกรนด์, โออิชิบุฟเฟต์, ชาบูชิ, นิกุยะ บาร์บีคิว บุฟเฟต์, โออิขิราเมน, และคาคาชิ พร้อมลุ้นรับแพ็คเกจทัวร์ "ญี่ปุ่น" เริ่ม 1 มิ.ย. 57 - 31 ก.ค. 57 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม K-Contact Center โทร. 02-888-8888 กด *8
ที่มา : http://www.newswit.com
วันที่ 9 มิถุนายน 2557
วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กสิกรไทยหนุนธุรกิจเคเบิ้ลใยแก้วความเร็วสูง
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนายกรัณย์พล อัศวสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงิน เพื่อสนับสนุนโครงการขยายโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ออฟติก) สำหรับให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงที่มีเสถียรภาพให้แก่ลูกค้าและเตรียมพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางโทรคมนาคมของอาเซียน ณ ธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน เมื่อเร็ว ๆ นี้
ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๑:๔๔ น.
กสิกรไทย คาดสัปดาห์หน้าหุ้นไทยผันผวนเตือนระวังแรงขาย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้าผันผวน ตามปัจจัยต่างประเทศ เตือนนักลงทุนระวังแรงเทขายทำกำไร ชี้ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน...
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 57 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทย ระหว่างวันที่ 9 - 13 มิ.ย. 2557 ว่า ดัชนีอาจปรับตัวผันผวน นักลงทุนยังต้องระวังแรงขายทำกำไร ขณะที่บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,445 และ 1,425 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,488 และ 1,494 จุด ตามลำดับ โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ทั้งนี้ ได้สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งดัชนี SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,458.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.99% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 10.85% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 53,169.74 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 474.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.07% จากสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการที่มูดีส์ ยังคงมุมมองเครดิตของประเทศไทยในระดับเดิม รวมทั้งมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า หลังความชะงักงันทางการเมืองเริ่มคลายตัว ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพุธจากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อในช่วงปลายสัปดาห์ จากข่าวการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของ ECB.
ที่่มา : ไทยรัฐออนไลน์.วันอาทิตย์ ที่ 7 มิถุนายน .13.07 น
กสิกรไทยคว้า 2 รางวัลใหญ่จาก IAA
ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้แทนธนาคารฯ รับมอบรางวัลจากงานประกาศรางวัล IAA Awards for Listed Companies 2013 ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลซีอีโอยอดเยี่ยม เป็นปีที่ 4 และรางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยมี นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เป็นผู้มอบ จัดโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analysts Association - IAA) ณ โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท เมื่อเร็ว ๆ นี้
ที่มา : http://www.kasikornbank.com/th/whathot/pages/IAA-Awards.aspx
วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กสิกรไทยผนึกหอการค้าไทยออกบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย
กสิกรไทยรุกผู้นำบัตรเครดิต จับมือหอการค้าไทย ออกบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย บัตรแรกและบัตรเดียวที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านธุรกิจและชีวิตส่วนตัว ด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ ส่วนลดจากหอการค้าทั่วประเทศ และร่วมอบรมเพิ่มพลังความรู้ ตั้งเป้าออกบัตร 2 แสนใบภายใน 5 ปี
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมมือกับหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ออกบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย ซึ่งจะเป็นบัตรเครดิตที่มีอัตลักษณ์พิเศษเหนือกว่าบัตรเครดิตทั่วไป โดยจะเป็นบัตรเครดิตบัตรแรกและบัตรเดียวที่รวมสิทธิประโยชน์เพื่อสมาชิกผู้ถือบัตรทั้งด้านธุรกิจ และการจับจ่ายส่วนบุคคลจากธนาคารกสิกรไทย และเครือข่ายสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย จะได้รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ ส่วนลด 10-20% สำหรับค่าอบรมสัมมนา ส่วนลดสำหรับการออกหนังสือรับรองเพื่อการส่งออก การเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ฟรีเพื่อต่อยอดธุรกิจและก้าวทัน AEC สามารถใช้บริการสินเชื่อต่าง ๆ ของธนาคารกสิกรไทยในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องแสดงหลักทรัพย์กสิกรไทย (K-Klean Credit) สินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์กสิกรไทย (K-Franchise Credit) สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย และสินเชื่อบ้านกสิกรไทย
นอกจากนี้ ยังได้รับส่วนลดจากร้านค้าที่เป็นสมาชิกของหอการค้าทั่วประเทศ รวมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นส่วนลดและข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ที่ร่วมรายการกับบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีมากกว่า 400 แคมเปญต่อปี สำหรับผู้ที่จะสมัครบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย ต้องเป็นกลุ่มพนักงานบริษัท ผู้บริหาร และเจ้าของกิจการที่เป็นสมาชิกหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 700,000 คน ทั้งนี้ ธนาคารฯ ตั้งเป้าออกบัตรดังกล่าวประมาณ 2 แสนใบภายใน 5 ปี
นายปรีดี กล่าวเพิ่มเติมว่า หอการค้าไทย เป็นศูนย์รวมภาคธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีเครือข่ายสมาชิกครอบคลุมทุกจังหวัด จึงเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ดังนั้นความร่วมมือกับหอการค้าไทยครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการร่วมออกบัตรเครดิตเท่านั้น แต่จะเป็นความร่วมมือในการส่งเสริมพัฒนาสมาชิกหอการค้า และการให้สิทธิประโยชน์ที่จะเกื้อกูลการดำเนินธุรกิจของสมาชิกให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งแตกต่างจากการออกบัตรเครดิตอื่น ๆ ที่ผ่านมา และธนาคาร ฯ หวังว่าจะมีการพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสำหรับสมาชิกออกมากอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าวัตถุประสงค์หลักของการจัดทำบัตรสมาชิกเครดิตร่วมร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทยในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะใช้เป็นบัตรแสดงตนในการเป็นสมาชิกของหอการค้า เป็นเอกลักษณ์ และเอกภาพเดียวกันของหอการค้าทั่วประเทศ รวมทั้งใช้เป็นบัตรส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าและหน่วยงานสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะเป็นบัตรที่ให้สิทธิพิเศษมากกว่าบัตรส่วนลดทั่วไป ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมเครือข่ายสิทธิประโยชน์ด้านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศให้กว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของเราในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมเครือข่ายทั่วประเทศ
นอกจากสิทธิ์พิเศษที่ได้รับจากธนาคารกสิกรไทยแล้ว ในส่วนของหอการค้าไทย จะดำเนินการรณรงค์เชิญชวน ร้านค้า สถานบริการ ภายใต้ป้าย “ของดีจังหวัด” ซึ่งเป็นโครงการแนะนำร้านอาหารและของฝากชั้นดีของหอการค้าจังหวัดแต่ละจังหวัด หรือร้านอาหารอร่อยที่เป็นสมาชิกของหอการค้าจังหวัด ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งสมาชิกของหอการค้าไทยในส่วนกลางให้เข้าร่วมโครงการ นอกจากนั้น ยังมอบส่วนลดและสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ของหอการค้าไทย เช่น ส่วนลด 10-20% สำหรับค่าอบรมสัมมนา ส่วนลดสำหรับการออกหนังสือรับรองเอกสารเพื่อการส่งออก เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายในส่วนภูมิภาค ร่วมกับโครงการไทยเที่ยวไทยอีกด้วย
ที่มา:http://www.kasikornbank.com/th/whathot/pages/KBank-TCC_CreditCard.aspx
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมมือกับหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ออกบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย ซึ่งจะเป็นบัตรเครดิตที่มีอัตลักษณ์พิเศษเหนือกว่าบัตรเครดิตทั่วไป โดยจะเป็นบัตรเครดิตบัตรแรกและบัตรเดียวที่รวมสิทธิประโยชน์เพื่อสมาชิกผู้ถือบัตรทั้งด้านธุรกิจ และการจับจ่ายส่วนบุคคลจากธนาคารกสิกรไทย และเครือข่ายสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย จะได้รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ ส่วนลด 10-20% สำหรับค่าอบรมสัมมนา ส่วนลดสำหรับการออกหนังสือรับรองเพื่อการส่งออก การเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ฟรีเพื่อต่อยอดธุรกิจและก้าวทัน AEC สามารถใช้บริการสินเชื่อต่าง ๆ ของธนาคารกสิกรไทยในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องแสดงหลักทรัพย์กสิกรไทย (K-Klean Credit) สินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์กสิกรไทย (K-Franchise Credit) สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย และสินเชื่อบ้านกสิกรไทย
นอกจากนี้ ยังได้รับส่วนลดจากร้านค้าที่เป็นสมาชิกของหอการค้าทั่วประเทศ รวมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นส่วนลดและข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ที่ร่วมรายการกับบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีมากกว่า 400 แคมเปญต่อปี สำหรับผู้ที่จะสมัครบัตรสมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย ต้องเป็นกลุ่มพนักงานบริษัท ผู้บริหาร และเจ้าของกิจการที่เป็นสมาชิกหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 700,000 คน ทั้งนี้ ธนาคารฯ ตั้งเป้าออกบัตรดังกล่าวประมาณ 2 แสนใบภายใน 5 ปี
นายปรีดี กล่าวเพิ่มเติมว่า หอการค้าไทย เป็นศูนย์รวมภาคธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีเครือข่ายสมาชิกครอบคลุมทุกจังหวัด จึงเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ดังนั้นความร่วมมือกับหอการค้าไทยครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการร่วมออกบัตรเครดิตเท่านั้น แต่จะเป็นความร่วมมือในการส่งเสริมพัฒนาสมาชิกหอการค้า และการให้สิทธิประโยชน์ที่จะเกื้อกูลการดำเนินธุรกิจของสมาชิกให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งแตกต่างจากการออกบัตรเครดิตอื่น ๆ ที่ผ่านมา และธนาคาร ฯ หวังว่าจะมีการพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสำหรับสมาชิกออกมากอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าวัตถุประสงค์หลักของการจัดทำบัตรสมาชิกเครดิตร่วมร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทยในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะใช้เป็นบัตรแสดงตนในการเป็นสมาชิกของหอการค้า เป็นเอกลักษณ์ และเอกภาพเดียวกันของหอการค้าทั่วประเทศ รวมทั้งใช้เป็นบัตรส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าและหน่วยงานสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะเป็นบัตรที่ให้สิทธิพิเศษมากกว่าบัตรส่วนลดทั่วไป ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมเครือข่ายสิทธิประโยชน์ด้านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศให้กว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของเราในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมเครือข่ายทั่วประเทศ
นอกจากสิทธิ์พิเศษที่ได้รับจากธนาคารกสิกรไทยแล้ว ในส่วนของหอการค้าไทย จะดำเนินการรณรงค์เชิญชวน ร้านค้า สถานบริการ ภายใต้ป้าย “ของดีจังหวัด” ซึ่งเป็นโครงการแนะนำร้านอาหารและของฝากชั้นดีของหอการค้าจังหวัดแต่ละจังหวัด หรือร้านอาหารอร่อยที่เป็นสมาชิกของหอการค้าจังหวัด ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งสมาชิกของหอการค้าไทยในส่วนกลางให้เข้าร่วมโครงการ นอกจากนั้น ยังมอบส่วนลดและสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ของหอการค้าไทย เช่น ส่วนลด 10-20% สำหรับค่าอบรมสัมมนา ส่วนลดสำหรับการออกหนังสือรับรองเอกสารเพื่อการส่งออก เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกเครดิตร่วมหอการค้าไทย-กสิกรไทย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายในส่วนภูมิภาค ร่วมกับโครงการไทยเที่ยวไทยอีกด้วย
ที่มา:http://www.kasikornbank.com/th/whathot/pages/KBank-TCC_CreditCard.aspx
กสิกรไทยทุ่ม 100 ล้าน ลดดอกเบี้ยกู้ 3% ยืดหนี้ 6 เดือน ช่วยเอสเอ็มอีคลายทุกข์จากพิษเศรษฐกิจ
การเมืองยืดเยื้อส่งผลกระทบเอสเอ็มอีรายได้ลด ขาดสภาพคล่อง กสิกรไทยรุดช่วย ทุ่ม 100 ล้าน ลดดอกเบี้ย 3% นาน 3 เดือน พักชำระเงินต้นนาน 6 เดือน พร้อมเตรียมเงินปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ให้เอสเอ็มอีที่เดือดร้อนอีก 75,000 ล้านบาท หวังช่วยลูกค้าเพิ่มสภาพคล่องและฟื้นตัวจากวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจ
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ปลายที่ปีแล้ว ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างกว้างขวาง ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจติดลบ การลงทุนชะลอตัว ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของประชาชนลดลง ทำให้เอสเอ็มอีมีรายได้ลดลงกว่า 40% หลายรายมีความเสี่ยงที่จะขาดสภาพคล่อง เนื่องจากไม่มีกระแสเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ให้คำปรึกษาและพิจารณาช่วยเหลือแก่เอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบตามความจำเป็นของแต่ละราย
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน ทำให้เอสเอ็มอี 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงเป็นวงกว้าง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศลดลงเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย การลงทุนของภาครัฐและเอกชนชะลอตัวลง อีกทั้งชาวนาได้รับเงินจากการขายข้าวล่าช้ากว่ากำหนด โดยธนาคารกสิกรไทยมีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีใน 3 กลุ่มดังกล่าวประมาณ 19,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินเร่งด่วน เพราะเป็นกลุ่มที่มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเทียบกับภาระหนี้ที่มีกับธนาคารอยู่ในสัดส่วนที่สูง ประมาณ 15,000 ราย
ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเป็นพิเศษแก่เอสเอ็มอีทั้ง 3 กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนด้วยการลดดอกเบี้ยวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (โอดี) ทุกรายทันที 3% เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน-31 สิงหาคมนี้ และพักชำระหนี้เงินต้นเป็นเวลา 6 เดือนให้กับลูกค้าในกลุ่มนี้ นอกจากนี้ธนาคารยังได้เตรียมวงเงินกู้อีก 75,000 ล้านบาทเพื่อปล่อยกู้ใหม่ให้เอสเอ็มอีอื่นที่ได้รับผลกระทบและต้องการเงินลงทุนหรือวงเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
มาตรการช่วยเหลือด้วยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 3% และพักชำระหนี้เงินต้นนาน 6 เดือน จะทำให้ลูกค้าใน 3 กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนมีเงินเพิ่มขึ้นต่อเดือนราว 55% จากภาระหนี้ของธนาคารที่ลดลง ซึ่งลูกค้าสามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวไปหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจได้มากขึ้น
นายพัชร กล่าวทิ้งท้ายว่า มาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้ ธนาคารเชื่อว่าจะช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้โดยไม่กระทบกับกำไรของผู้ถือหุ้นเพราะธนาคารจะบริหารจัดการด้วยการลดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ของธนาคารทดแทน
ที่มา : http://www.kasikornbank.com/TH/Pages/Default.aspx#
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ปลายที่ปีแล้ว ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างกว้างขวาง ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจติดลบ การลงทุนชะลอตัว ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของประชาชนลดลง ทำให้เอสเอ็มอีมีรายได้ลดลงกว่า 40% หลายรายมีความเสี่ยงที่จะขาดสภาพคล่อง เนื่องจากไม่มีกระแสเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ให้คำปรึกษาและพิจารณาช่วยเหลือแก่เอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบตามความจำเป็นของแต่ละราย
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน ทำให้เอสเอ็มอี 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงเป็นวงกว้าง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศลดลงเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย การลงทุนของภาครัฐและเอกชนชะลอตัวลง อีกทั้งชาวนาได้รับเงินจากการขายข้าวล่าช้ากว่ากำหนด โดยธนาคารกสิกรไทยมีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีใน 3 กลุ่มดังกล่าวประมาณ 19,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินเร่งด่วน เพราะเป็นกลุ่มที่มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเทียบกับภาระหนี้ที่มีกับธนาคารอยู่ในสัดส่วนที่สูง ประมาณ 15,000 ราย
ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเป็นพิเศษแก่เอสเอ็มอีทั้ง 3 กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนด้วยการลดดอกเบี้ยวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (โอดี) ทุกรายทันที 3% เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน-31 สิงหาคมนี้ และพักชำระหนี้เงินต้นเป็นเวลา 6 เดือนให้กับลูกค้าในกลุ่มนี้ นอกจากนี้ธนาคารยังได้เตรียมวงเงินกู้อีก 75,000 ล้านบาทเพื่อปล่อยกู้ใหม่ให้เอสเอ็มอีอื่นที่ได้รับผลกระทบและต้องการเงินลงทุนหรือวงเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
มาตรการช่วยเหลือด้วยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 3% และพักชำระหนี้เงินต้นนาน 6 เดือน จะทำให้ลูกค้าใน 3 กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนมีเงินเพิ่มขึ้นต่อเดือนราว 55% จากภาระหนี้ของธนาคารที่ลดลง ซึ่งลูกค้าสามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวไปหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจได้มากขึ้น
นายพัชร กล่าวทิ้งท้ายว่า มาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้ ธนาคารเชื่อว่าจะช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้โดยไม่กระทบกับกำไรของผู้ถือหุ้นเพราะธนาคารจะบริหารจัดการด้วยการลดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ของธนาคารทดแทน
ที่มา : http://www.kasikornbank.com/TH/Pages/Default.aspx#
โบรกเกอร์ระบุช่วงบ่ายดัชนีทรงตัวไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้น
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุความเคลื่อนไหวช่วงบ่ายน่าจะทรงตัวต่อจากช่วงเช้า เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากดดันดัชนี โดยหากดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,410 จุดได้ ดัชนีมีแนวโน้มถอยลงมาปิดที่ระดับต่ำกว่า 1,409.00 จุด เพราะยังคงมีแรงขายหุ้นใหญ่ในกลุ่ม ICT ขณะที่กลุ่ม Bank Contractors และ Construction Materials ยังคงปรับขึ้นต่อ เนื่องจากป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแผนพิจารณาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ คสช.
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มดัชนีบ่ายมีแนวโน้มทรงตัวจากช่วงเช้า แม้ว่าจะยังคงได้รับผลดีจากการเมืองในประเทศ และการตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีส่งผลให้ตลาดอาจมีแรงขายทำกำไรเข้ามา ทั้งนี้ ยังคงระวังการปรับถอยในวันพรุ่งนี้ จากปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ (GDP ไตรมาส 1/57 สหรัฐฯ ที่อาจติดลบ และเงินทุนต่างชาติที่ชะลอการไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะตลาด TIP ในระยะสั้น) อย่างไรก็ตาม ดัชนีจะปรับตัวดีกว่าคาดได้ (ขึ้นไปเหนือ 1,420 จุด) ต่อเมื่อนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง ดังนั้น ระยะสั้นตลาดยังมีโอกาสเผชิญการแกว่งผันผวนได้ จึงควรระมัดระวังการเก็งกำไรหุ้นเล็กที่ไม่มีพื้นฐาน หรือปรับขึ้นแรงเกินพื้นฐาน โดยอาจหมุนมายังหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่พื้นฐานดีที่มีโอกาส Outperform ตลาดในช่วงถัดไป
คำแนะนำ เลือกหุ้นรายตัว สำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ เก็งกำไรด้วยวงเงินจำกัด ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายเร่งด่วนของ คสช.
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.18 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,409.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.81 จุด เปลี่ยนแปลง +0.49% มูลค่าการซื้อขาย 26,384.92 ล้านบาท
ที่มา : โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์.29 พฤษภาคม 2557 15:17 น.
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000060103
ขายหุ้นกู้เอสพีซีจี ดอกเบี้ย 5.55%
นางสาววันดี กุญชรยาคง (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) (SPCG) ผู้นำโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ พร้อมด้วยผู้บริหารจากธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารธนชาต และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส จำกัด ร่วมลงนามแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2557 เป็นหุ้นกู้แบบมีผู้ค้ำประกัน และทยอยชำระคืนเงินต้น อายุหุ้นกู้ 5 ปี 1 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.55% ต่อปี หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยทริสเรทติ้งที่ระดับBBB มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท เปิดจองซื้อวันนี้ถึง 29 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ หุ้นกู้ SPCG ชุดนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่สอบถามข้อมูลผ่านกลุ่มผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ดังกล่าว
รายนามบุคคลในภาพ จากซ้ายไปขวา:
1.นายภานพ อังศุสิงห์ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
2.นายเอกชัย เตชะวิริยะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส รักษาการผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ 8 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
3.นางสาววันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน)
4.นายกนต์ธีร์ ประเสริฐวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
5.นายพูนลาภ ฉันทวงศ์วิริยะ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
6.นางยอดฤดี สันตติกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน)
ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๔:๑๖น.
http://www.newswit.com/fin/2014-05-29/6cc75652df45ece49cfd2e2ec73d1b7c/
กสิกรไทย สนับสนุนสินเชื่อผู้เช่าร้านในเอเชียทีค
กสิกรไทยจับมือเอเชียทีค ออกสินเชื่อพิเศษหลากหลายหนุนเงินหมุนเวียนให้ผู้เช่าร้านค้าในเอเชียทีคเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นการบริโภค ด้วยเล็งเห็นศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ตั้งเป้ามีผู้เช่าร้านค้าในเอเชียทีคเข้าร่วมโครงการ จำนวน 300 ราย วงเงินสินเชื่อ 100 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (ที่ 2 จากขวา) นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 2 จากซ้าย) และนางวัลลภา ไตรโสรัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลาง) กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ ผู้บริหารโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์”
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ออกโครงการสนับสนุนทางการเงินเพื่อผู้เช่าร้านค้าในโครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจและเป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อธุรกิจเริ่มต้น บริการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ สินเชื่อไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับเอสเอ็มอีที่มีข้อจำกัดในการหาหลักทรัพย์มาค้ำประกันสินเชื่อ แต่ต้องการเงินทุนในการประกอบธุรกิจ ขยายกิจการ หรือเพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
สินเชื่อ SME กู้ง่ายหมดกังวลเรื่องเดินบัญชี บริการสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีหลักฐานการเดินบัญชี หรือมีการเดินบัญชีแต่ไม่มีความสม่ำเสมอ โดยธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าจากเอกสารประเภทใบเสร็จรับเงิน ใบสั่งซื้อสินค้า ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟฟ้า ซึ่งผู้ขอสินเชื่อในโครงการนี้จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 1 เดือน
นอกจากบริการสินเชื่อดังกล่าวข้างต้น ธนาคารยังมีบริการทางการเงินที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับจ่ายเงินของผู้เช่าร้านค้า เพื่อให้ผู้เช่าร้านค้ามีเวลาในการบริหารร้านได้อย่างเต็มที่ ได้แก่ บริการชำระเงินผ่านการหักบัญชีอัตโนมัติกสิกรไทย เพื่อหักชำระค่าเช่าและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ กับเอเชียทีค ฟรีค่าธรรมเนียม 3 เดือน บริการร้านค้ารับบัตรเครดิตผ่าน K-PowerP@y (mPOS) ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน/แท๊ปเล็ต ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งจะทำให้การรับชำระเงินจากลูกค้าสะดวกได้ทุกที่ทุกเวลา และมั่นใจด้วย SMS หรือ email ที่ยืนยันทุกการใช้จ่าย พร้อมโปรโมชั่นจากบัตรเครดิตกสิกรไทย เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าในเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ด้วยการออกโปรโมชั่นพิเศษ "อิ่มอร่อย 2 ต่อ รับโชคมากกว่า" ให้กับเอเชียทีคโดยเฉพาะ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจเข้ามาใช้บริการภายในโครงการมากขึ้น
นายพัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการทำธุรกิจ Shopping &Travel Destination ได้รับความนิยมอย่างมาก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีการออกแบบให้มีบรรยากาศย้อนยุคแบบโคโรเนียล มีกระบวนการคัดเลือกร้านค้าเพื่อเข้ามาเปิดในโครงการ จึงทำให้กลายเป็นแหล่งรวมร้านค้าที่มีศักยภาพ เพราะความหลากหลายและความน่าสนใจของสินค้ามีความสำคัญต่อการท่องเที่ยว ของผู้บริโภค ความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากช่วยเรื่องสภาพคล่องแล้ว อีกส่วนหนึ่งคือ ต้องการให้ผู้เช่าให้ความสำคัญเรื่องการเดินบัญชี ซึ่งจะส่งผลดีเมื่อผู้เช่าร้านค้าต้องการขยายกิจการก็จะสามารถขอสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น โครงการนี้ ธนาคารตั้งเป้ามีผู้เช่าร้านค้าในโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เข้าร่วมโครงการ จำนวน 300 ราย วงเงินสินเชื่อ 100 ล้านบาทภายในสิ้นปี
ที่มา http://www.kasikornbank.com
วันที่ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2557
กสิกรไทยส่งนวัตกรรมใหม่ บัตรเครดิตเพย์เวฟสติ๊กเกอร์ใบแรกของไทย จ่ายง่ายแค่แตะไม่ต้องเซ็น ตั้งเป้าออก 2 แสนใบ ภายใน 57
กสิกรไทยผุดนวัตกรรมใหม่ บัตรเครดิตเพย์เวฟสติ๊กเกอร์ พกง่ายจ่ายไว แค่แตะไม่ต้องเซ็นชื่อ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ พร้อมรองรับการขยายตัวของ Micro Payment ตั้งเป้ายอดผู้ใช้งาน 2 แสนบัตร พร้อมขยายสู่กลุ่มคมนาคมให้รองรับการใช้งาน ทางด่วน บีทีเอส รถไฟใต้ดิน ภายในปี 58
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการชำระเงินที่มียอดชำระต่อครั้งที่ต่ำ หรือ Micro Payment ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมความสะดวก รวดเร็ว และความต้องการถือเงินสดลดลง ธนาคารกสิกรไทยผู้นำด้านดิจิตอลแบงกิ้ง และครองอันดันดับ 1 ในธุรกิจบัตรเครดิตกลุ่ม VISA payWave ด้วยยอดผู้ถือบัตรมากที่สุดในตลาด จึงเตรียมเปิดตัว บัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) พัฒนาต่อยอดบัตรเครดิตประเภท K-Wave ที่ใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ในรูปแบบสติ๊กเกอร์เป็นบัตรแรกในไทย สามารถติดบนโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ จึงพกพาสะดวกพร้อมใช้งาน ช่วยลดการถือเงินสด ชำระเงินง่ายโดยการแตะหน้าบัตรบนเครื่องชำระเงิน โดยไม่ต้องเซ็นชื่อกำกับ ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA payWave ทั่วโลก
นอกจากนี้ ในด้านความปลอดภัย ผู้ถือบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) สามารถกำหนดวงเงินของบัตรได้เองตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป และใช้จ่ายผ่านบัตรโดยไม่ต้องมีลายเซ็นได้สูงสุด 1,500 บาทต่อรายการ สำหรับการชำระเงิน ต้องแตะบัตรกับเครื่องอ่านบัตรในระยะห่างไม่เกิน 10 ซม. ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดการชำระเงินผ่านบัตรโดยไม่ได้ตั้งใจมีน้อยมาก และบัตรนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก VISA โดยมี Chip มาตรฐาน EMV อยู่ภายในเพื่อป้องกันการคัดลอกข้อมูล ทั้งนี้ ผู้สมัครบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีสำหรับปีแรก รวมทั้งสามารถสะสมคะแนนจากการใช้จ่ายเช่นเดียวกับบัตรเครดิตทั่วไปอีกด้วย
ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าหมายการออกบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) และ K-Wave Credit Card จำนวน 200,000 บัตร โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งสิ้น 2,700 ล้านบาท ในปี 2557 พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนร้านค้ารับบัตรกลุ่ม K-Wave จากปัจจุบันในตลาดที่มีกว่า 5,000 เครื่อง โดยเป็นของธนาคารกสิกรไทยจำนวน 3,500 เครื่องภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2557 และคาดว่าในตลาดจะเพิ่มเป็นเป็น 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศภายในปี 2557 โดยเน้นธุรกิจที่มีการชำระเงินรายย่อยสูง และธนาคารกสิกรไทย กำลังดำเนินการพัฒนาต่อยอดการใช้งานบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) ให้สามารถใช้ชำระเงินในกลุ่มคมนาคมขนส่งต่าง ๆ อาทิ ค่าทางด่วน, รถไฟฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2558
นายชาติชาย กล่าวว่า การพัฒนาบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) สะท้อนความเป็นผู้นำด้านดิจิตอลแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย ในการนำนวัตกรรมบริการใหม่มารองรับการขยายตัวของการชำระเงินรายย่อยที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนอกจากผู้ใช้บัตรจะได้รับความสะดวกด้วยขั้นตอนชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น และช่วยให้ร้านค้ามีขั้นตอนการรับชำระค่าสินค้าที่กระชับขึ้น โดยเฉพาะร้านจำหน่ายสินค้าและบริการที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว จำนวนเงินธุรกรรมไม่สูงมาก เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม มินิมาร์ท โรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการลดการใช้เงินสดลง เพื่อช่วยลดภาระในการผลิตธนบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย และลดความเสี่ยงให้แก่ประชาชนในการทำเงินสดสูญหายหรืออันตรายจากมิจฉาชีพ
ปัจจุบันในประเทศไทยมีบัตรเครดิต ที่ใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ในตลาด ทั้งบัตรที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์และบริษัทต่าง ๆ จำนวนรวมประมาณ 100,000 บัตร สำหรับธนาคารกสิกรไทย ปัจจุบันมีบัตร K-Wave Credit Card ทั้งสิ้น 80,000 บัตร โดยคาดว่า ณ สิ้นปีในตลาดจะมีบัตรเครดิตที่ใช้เทคโนโลยี NFC ประมาณ 300,000 บัตร
ด้านภาพรวมตลาดสินเชื่อบัตรเครดิต พบว่า NPL ของทั้งตลาด ณ สิ้นสุดไตรมาส 1 ปี 2557 อยู่ที่ 2.72% ขณะที่ NPL สินเชื่อบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ในช่วงเวลาเดียวกัน อยู่ที่ 1.72% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าตลาด ทั้งนี้ เป้าหมายสิ้นปี 2557 ของธนาคารฯ จะขยายฐานบัตรเครดิตใหม่จำนวน 715,000 บัตร และมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตรวม 3.6 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 ราว 16% มียอดใช้จ่ายทั้งหมดผ่านบัตร อยู่ที่ 3.44 แสนล้านบาท ขยายตัว ราว 31% รวมทั้งประมาณการยอดสินเชื่อคงค้างหลังปรับฐาน สิ้นปี 2557 จะอยู่ที่กว่า 72,000 ล้านบาท ขยายตัวในช่วง 11-12%
ที่มา http://www.newswit.com
วันที่ วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน 2557
วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
นักศึกษาทั่วประเทศสอบคัดเลือก YFS2014 คึกคัก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย ร่วมกับ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต
จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
และพันธมิตรในตลาดทุนไทย จัดสอบรอบคัดเลือกโครงการ Young Financial Star
Competition 2014 (YFS2014) ณ สนามสอบ 12 แห่งทั่วประเทศ
เพื่อคัดเลือกผู้เข้ารอบ 300 คน เข้าร่วมกิจกรรม YFS Camp
โดยในปีนี้มีนิสิตนักศึกษาสนใจสมัครแข่งขันกว่า 4,800 คน จากกว่า 90
มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดการแข่งขันรอบต่อไปที่
www.tsi-thailand.org/yfs
ที่มา : http://www.newswit.com
วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕
ว้าว! กสิกรไทยแจกจริงทองคำล้านที่ 4 ในแคมเปญ เทศกาลเบิกบานใจแก๊ง 3 ช่า คาร์นิว้าว
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์
รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (ที่ 3 จากซ้าย)
เป็นตัวแทนธนาคารมอบรางวัลทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท จากแคมเปญ
“เทศกาลเบิกบานใจแก๊ง 3ช่าคาร์นิว้าว” ให้แก่ นางสาวอำไพ กองแดง (ที่ 3
จากขวา) ผู้โชคดีประจำเดือนเมษายน
โดยจัดมอบอย่างยิ่งใหญ่บนเวทีคอนเสิร์ตแก๊ง 3 ช่า ที่สนามโรงเรียนเทศบาล 4
จังหวัดนครปฐม
ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีรับทองคำ 1ล้านบาท เช่นนี้ได้ทุกเดือน
เพียงเป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้บริการธนาคารกสิกรไทยมาก่อน
เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ พร้อมสมัครบัตรเดบิต แล้วส่ง SMS พิมพ์ KB
ตามด้วยหมายเลขบัตรเดบิต 10 หลักสุดท้ายมาที่หมายเลข 4545888
ก็สามารถลุ้นรับทองคำได้ง่ายๆ ทุกเดือน จับรางวัลครั้งถัดไปในเดือนมิถุนายน
2557
นอกจากนี้เมื่อสมัครใช้บริการ SMS Alert รับทันทีของกำนัลลายแก๊ง 3ช่า ที่ผลิตพิเศษสำหรับแคมเปญนี้เท่านั้น เช่น หมอน 3ช่า ชวนฝัน กระเป๋าช้อปปิ้ง 3ช่า กระติกน้ำสุดซ่า 3 ช่า หรือ ร่ม 3 ช่าท้าแดด ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ K-Contact Center 02 888 8888
นอกจากนี้เมื่อสมัครใช้บริการ SMS Alert รับทันทีของกำนัลลายแก๊ง 3ช่า ที่ผลิตพิเศษสำหรับแคมเปญนี้เท่านั้น เช่น หมอน 3ช่า ชวนฝัน กระเป๋าช้อปปิ้ง 3ช่า กระติกน้ำสุดซ่า 3 ช่า หรือ ร่ม 3 ช่าท้าแดด ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ K-Contact Center 02 888 8888
ที่มา : http://www.newswit.com
วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)