วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารกสิกรไทยที่ BBB+

           ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคารกสิกรไทย (จำกัด) มหาชน หรือ KBank (อันดับเครดิต ‘BBB+’/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ ‘BBB+’ หุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีวันครบกำหนดชำระในเดือนตุลาคม 2562 โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ euro medium term note (EMTN) ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะออกโดย KBank สาขาหมู่เกาะเคย์แมน
          การประกาศให้อันดับเครดิตครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการที่ธนาคารได้ทำการ ออกหุ้นกู้และฟิทช์ได้รับเอกสารฉบับสมบูรณ์ซึ่งมีข้อมูลตรงตามที่ได้รับมา ก่อนหน้า อันดับเครดิตที่ประกาศนี้เป็นอันดับเครดิตระดับเดียวกับที่ฟิทช์คาดว่าจะให้ แก่หุ้นกู้ดังกล่าวตามที่ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
           อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิต สากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ KBank ที่ ‘BBB+’ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน ของธนาคาร
            อันดับเครดิตของ KBank สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่งของธนาคาร คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น เสถียรภาพในด้านการระดมทุน (funding) และสภาพคล่อง รวมทั้งฐานะเงินกองทุนที่อยู่ในระดับดีและความสามารถในการทำกำไรที่แข็ง แกร่ง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
            อันดับเครดิตของของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะ ยาวของ KBank
           อันดับเครดิตของประเทศไทยที่สูงขึ้น สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งการปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นของสถานะทางการเงินของธนาคารโดยรวม น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่ออับดับเครดิตของ KBank อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (หรือ Viability Rating) ในปัจจุบันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อย
            การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดจากการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในด้านคุณภาพ สินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ ที่อาจส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรหรือเงินกองทุนลดลง ตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจรวมถึง การเพิ่มระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จากการมีระดับการกระจุกตัวของสินเชื่อ เพิ่มขึ้น และ/หรือ การเติบโตของสินเชื่อในระดับที่สูงเกินไป โดยความสามารถในการรองรับความเสี่ยงไม่ได้มีการปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงอาจสะท้อนจากผลการดำเนินงานหรือเงิน กองทุนที่แข็งแกร่งขึ้น
อันดับเครดิตของ KBank ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอันดับเครดิตในครั้งนี้ มีดังนี้:
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’
  • อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘bbb+’
  • อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’
  • อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำที่ ‘BBB-’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ EMTN มูลค่ารวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ ‘BBB+’
  • อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ ‘BBB+’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ ‘F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ (หุ้นกู้ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์ Basel II) ที่ ‘AA-(tha)’

 ที่มา : http://www.newswit.com
วันพุธที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น